7 เทรนด์การจัดส่ง Last Mile ที่น่าจับตามองในปี 2022

การระบาดใหญ่ของ COVID-19 ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปอย่างมาก การซื้อของออนไลน์ได้กลายเป็นทุกอย่างสำหรับความต้องการของการช็อปปิ้งส่วนใหญ่ของเราและเป็นแนวโน้มอีกหลายปีในอนาคต ตลาดการจัดแบบ Last Mile ทั่วโลกกำลังเติบโตในอัตรา 9% ต่อปี และจะสูงถึง 66 พันล้านดอลลาร์ในปี 2569

ด้วยปริมาณคำสั่งซื้อที่หลั่งไหลเข้ามาเป็นจำนวนมาก บริษัทธุรกิจขนส่งสินค้าต่างๆ จึงต้อง ”ทำงานแข่งกับเวลา”  ดูเหมือนว่าธุรกิจขนส่งที่แข็งแกร่งกว่าจะหันไปใช้เทคโนโลยีเป็นผู้ขับเคลื่อนการจัดส่งแบบ Last Mile

การส่งสินค้า แบบ Last Mile คืออะไร

หมายถึง การจัดส่งสินค้าจากคลังสินค้าหรือศูนย์กระจายสินค้าตรงไปยังปลายทาง  โดยไม่ต้องหยุดพักที่ศูนย์กลางหรือ ศูนย์กระจายสินค้าใดๆ เพื่อให้แน่ใจว่าการส่งสินค้าเป็นการทำงานที่น่าพึงพอใจสำหรับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นผู้จัดส่ง ผู้จัดส่ง ผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์บุคคลที่สาม พนักงานจัดส่ง และลูกค้าปลายทาง—บริษัทธุรกิจขนส่งสินค้าต่างๆ จำเป็นต้องคำนึงถึงแนวโน้มที่กำลังดำเนินอยู่ในอนาคต

แนวโน้ม การส่งสินค้า แบบ Last Mile กำลังเป็นที่ยอดนิยมที่นั้นจะอยู่หรือจะไป

1.การนำเทคโนโลยี Last Mile Delivery มาใช้เพิ่มขึ้น  ซอฟต์แวร์การจัดการการจัดส่งที่ดูแลทุกแง่มุมของการส่งสินค้าแบบ  Last Mile Delivery  ละขจัดปัญหาต่างๆ ของธุรกิจขนส่งสินค้า  ตั้งแต่การจัดการด้านคำสั่งซื้อไปจนถึงการวางแผนเส้นทางที่เหมาะสมที่สุด การติดตามคำสั่งซื้อไปจนถึงการจัดการด้านต่างๆ  ซึ่งจะเปลี่ยนการทำงานแบบเดิมๆของธุรกิจขนส่งสินค้าให้ทำงานได้ไหลลื่นเป็นอย่างดี มีธุรกิจขนส่งสินค้าเพิ่มเป็นจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ที่ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยการส่งสินค้า แบบ Last Mile  อาทิเช่น  MoveMax ระบบบริหารจัดการขนส่งสินค้า

2. การส่งสินค้าแบบไม่ต้องสัมผัสกันสำหรับยุคปัจจุบัน  การระบาดจากโควิทครั้งใหญ่ได้บังคับให้เราต้องรักษาระยะห่างแบบตัวต่อตัว  หลักฐานการจัดส่งสินค้าทางอิเล็กทรอนิกส์และเกตเวย์การชำระเงินดิจิทัลเป็นกุญแจแก้ไขสู่วิกฤตนี้ การตรวจสอบการจัดส่งสินค้า  และการมีซอฟต์แวร์เพิ่มประสิทธิภาพการจัดเส้นทางการขนส่งสินค้าให้กับธุรกิจขนสิ่งสินค้า

3.การชนะการแข่งขันในตลาดขนส่งสินค้าได้อย่างรวดเร็วและยั่งยืน ด้วยความสามารถในการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นในตลาดเกี่ยวกับการส่งสินค้าที่เร็วขึ้น บริษัทต่างๆ จำเป็นต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าคำสั่งซื้อปลายทางได้อย่างถูกต้องและเร็วที่สุด4.การใช้รูปแบบไฮบริดที่เพิ่มขึ้นเมื่อพูดถึง การจัดการขนส่งสินค้าแลลร่วมการจัดส่ง

4.การใช้รูปแบบไฮบริดที่เพิ่มขึ้นเมื่อพูดถึง การจัดการขนส่งสินค้าและร่วมการจัดส่งทีมงานจัดส่งของบริษัทฯ  เพียงพอหรือไม่ หรือจำเป็นต้องจ้างบุคคลภายนอกมาดำเนินการตามคำสั่งซื้อด้วยหรือไม่ โมเดลลูกผสมของการใช้ทีมงานจัดส่งของตนเองร่วมกับทีมงานอิสระหรือผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์บุคคลที่สามอาจเป็นวิธีแก้ปัญหาเพื่อจัดการปริมาณการสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้น

5.การเพิ่มประสิทธิภาพและการวางแผนเส้นทางขั้นสูง การเลือกเส้นทางที่ปรับให้เหมาะสมที่สุดสำหรับการ การส่งสินค้า แบบ Last Mile เป็นกุญแจสำคัญ การปรับเส้นทางให้เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ และบริษัทต่างๆ จะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าพนักงานส่งของมีเส้นทางที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ซึ่งวางแผนไว้สำหรับพวกเขาไว้อย่างเรียบร้อย โดยคำนึงถึงสภาพการจราจร สิ่งกีดขวางบนถนน และอื่นๆ

6.ประสบการณ์ลูกค้าที่ยอดเยี่ยมมักเป็นกระแสเสมอ!  เพื่อประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมของลูกค้า บริษัทต่างๆ จะต้องทำให้การจัดส่งแบบ Last Mile  เป็นกระ บวนการที่มีประสิทธิภาพ  โซลูชันลอจิสติกส์ขั้นสูงหลายอย่างมีความสามารถในการติดตามแบบเรียลไทม์  MoveMax  ยกระดับประสบการณ์การติดตามสถานะการจัดส่งสินค้า ไปสู่ระดับใหม่ทั้งหมดด้วยการสร้าง Dashboard บนหน้าจอสามารถเห็นภาพรวมการ

  1. จัดส่งได้แบบ ลูกค้าสามารถมองเห็นสถานะของคำสั่งซื้อ พวกเขาสามารถได้รับการอัปเดตด้านการให้บริการและระบบสามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนเมื่อการจัดส่งสินค้าสำเร็จเรียบร้อย  

7. การเพิ่มขึ้นของปริมาณร้านขายสินค้าต่างๆ และครัวออนไลน์ต่างๆ   การมีคลังสินค้าใกล้กับพื้นที่ที่มีปริมาณการสั่งซื้อสูงทำให้การส่งมอบตรงเวลาและลูกค้าประทับใจ สำหรับการรองรับพื้นที่ที่ธุรกิจไม่สามารถให้บริการได้   บริษัทต่างๆ ควรมองหาการว่าจ้างผู้ให้บริการภายนอกมาร่วมการให้การบริการ  ปริมาณการสั่งซื้อออนไลน์มีปริมาณเพิ่มขึ้น  และวิธีเดียวที่จะติดตามให้ได้ ก็คือการปรับตัว การอยู่รอดของผู้ที่เหมาะสมที่สุดไม่ใช่แค่ทฤษฎีแต่เป็นผลลัพธ์ที่พิสูจน์แล้ว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น