[
เมื่อต้องเดินทางส่งสินค้าจากจุด A ไปยังจุด B ธุรกิจจำเป็นต้องพิจารณาปัจจัยหลายประการ ไม่เพียงแต่ต้องคำนึงถึงระยะห่างระหว่างจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดเท่านั้น แต่ยังต้องคำนึงถึงสภาพการจราจร ความพร้อมของพนักงาน และอื่นๆ อีกมากมายด้วย ระบบคำนวนและวางแผนเส้นทางขนส่งสินค้าช่วยให้สร้างเส้นทางที่พิจารณาตัวแปรต่างๆ เหล่านี้ทั้งหมด ช่วยให้ไปถึงจุดหมายปลายทางได้ในระยะเวลาน้อยที่สุดโดยมีค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด และต้นทุนที่ต่ำที่สุด
ถ้าธุรกิจยังใช้เครื่องมือวางแผนเส้นทางแบบ manual ก็คือ การรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของการเดินทาง ข้อมูลนี้อาจรวมถึงที่อยู่ของแต่ละสถานที่จัดส่งสินค้า หรือแม้แต่พิกัด GPS ที่เฉพาะเจาะจง เมื่อมีข้อมูลนี้แล้ว ก็อาจจะต้องใช้เครื่องมือแผนที่ เช่น Google Map เพื่อช่วยพิจารณาตัวเลือกเส้นทางต่างๆ โดยอิงตามข้อจำกัดด้านเวลานัดหมายของลูกค้าและความสามารถของคนขับรถส่งสินค้า ที่จะไปถึงได้ทันเวลาได้หรือไม่ นอกจากนี้ จะต้องคำนึงถึงอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้น เช่น ทางถนนที่มีรถพลุกพล่าน เส้นทางที่มีการจราจรติดขัด และอื่นๆ
การสร้างการวางแผนเส้นทางด้วยตนเองนั้นเป็นไปได้ และเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าการไม่มีการวางแผนเส้นทางเลย แต่การสร้างเส้นทางที่ดีที่สุดสำหรับความต้องการของธุรกิจโดยใช้วิธีนี้จะขึ้นอยู่กับสัญชาตญาณและการวิเคราะห์ปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบ นอกจากนี้ยังอาจใช้เวลานานกว่าการใช้ซอฟท์แวร์เพื่อวางแผนเส้นทางที่สร้างไว้ล่วงหน้าซึ่งได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลายในการดำเนินงานด้านโลจิสติกส์
ข้อเสียที่อาจเกิดขึ้นอื่นๆ ของการสร้างเครื่องมือวางแผนเส้นทาง แบบ manual ที่ควรพิจารณามีดังนี้
จุดจัดส่ง : เครื่องมือแผนที่ส่วนใหญ่ เช่น Google Maps มีขีดจำกัดจำนวนจุดแวะพักที่ค่อนข้างต่ำซึ่งไม่สะดวกสำหรับผู้ประกอบการธุรกิจที่มีเส้นทางขนาดใหญ่
ไม่มีการเพิ่มประสิทธิภาพเส้นทาง : การใช้เครื่องมือ เช่น Excel และ Google Maps หมายความว่าคุณจะไม่สามารถเข้าถึงฟังก์ชันการเพิ่มประสิทธิภาพเส้นทางขั้นสูงใดๆ เช่น การวางแผนอัตโนมัติ การจัดการกรอบเวลา การปรับสมดุลภาระงานหรือตารางงานของคนขับรถส่งสินค้า
ขาดความสามารถในการปรับเปลี่ยนตามเวลาจริง : สิ่งต่างๆ สามารถเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วบนท้องถนน แต่ด้วยระบบการวางแผนเส้นทาง manual จะไม่สามารถคำนึงถึงเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทันที การสร้างเส้นทางที่มีประสิทธิภาพไม่ใช่เรื่องยาก เมื่อธุรกิจมีระบบการวางแผนเส้นทางอัตโนมัติที่เหมาะสม และมีเครื่องมือพิเศษมากมายที่ได้รับการสร้างขึ้นเพื่อรองรับความต้องการเฉพาะของการดำเนินการด้านโลจิสติกส์แล้ว
เหตุใดธุรกิจจึงควรใช้ระบบการวางแผนเส้นทางอัตโนมัติไว้ล่วงหน้า เครื่องมือวางแผนเส้นทางจะมีประโยชน์สำหรับธุรกิจหรือบุคคลใด ๆ ที่ต้องการประหยัดเวลาและเงิน ด้วยการวางแผนเส้นทางที่ดีที่สุดและเป็นไปได่อย่างดีที่สุด การวางแผนเส้นทางที่ดีจะช่วยให้ธุรกิจจัดการค่าใช้จ่ายได้ เช่น น้ำมันเชื้อเพลิงหรือการสึกหรอของยานพาหนะ ขณะเดียวกันก็คำนึงถึงการจราจร สภาพอากาศ รายละเอียดถนน และปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจนำไปสู่ความล่าช้าอันมีค่าใช้จ่ายสูง
สำหรับการดำเนินธุรกิจ เวลาเป็นสิ่งสำคัญ ทุกนาทีมีค่า และไม่สามารถเสียเวลาเดินทางจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งได้ การวางแผนเส้นทางส่งสินค้าได้ล่วงหน้า ธุรกิจสามารถใช้ประโยชน์จากระบบคำนวนและวางแผนเส้นทางอัตโนมัติด้วยซอฟต์แวร์เพิ่มประสิทธิภาพเพื่อให้ได้เส้นทางที่มีประสิทธิภาพสูงสุด นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมการใช้เครื่องวางแผนเส้นทางจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับธุรกิจที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน
ระบบคำนวนและวางแผนเส้นทางช่วยให้สร้างแผนที่เส้นทางการเดินทางล่วงหน้าเพื่อให้ใช้เวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ยังสามารถใช้เพื่อค้นหาเส้นทางการจัดส่งที่ดีที่สุดได้ และเมื่อต้องเผชิญกับความท้าทาย เช่น ลูกค้าเปลี่ยนที่อยู่ รถเสีย หรือต้องเพิ่มคำสั่งจัดส่งสินค้าในนาทีสุดท้าย ผู้วางแผนเส้นทางจะสามารถให้ซอฟท์แวร์คิดวิธีแก้ปัญหาและเปลี่ยนแปลงเส้นทางได้แบบเรียลไทม์ ดังนั้นหากธุรกิจกำลังมองหาวิธีประหยัดเวลาและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของธุรกิจ การใช้ซอฟต์แวร์เฉพาะการขนส่งสินค้าแบบเต็มรูปแบบ ของ MoveMax จะทำให้ธุรกิจสามารถสร้างผลผลิตหรือยอดขายที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่ลดค่าใช้จ่ายไปพร้อมๆ กันด้วยซอฟต์แวร์การวางแผนเส้นทาง กล่าวอีกนัยหนึ่ง โซลูชันซอฟต์แวร์สามารถจ่ายผลตอบแทนให้กับธุรกิจได้อย่างง่ายดาย และบางส่วนเมื่อคุณคำนึงถึงการประหยัดต้นทุนที่เกิดขึ้นด้วย