หากธุรกิจขนส่งเพียงแค่จ่ายเงินซื้อเชื้อเพลิงเมื่อใดก็ตามที่ต้องการ โดยไม่ได้ตรวจสอบปริมาณการใช้เชื้อเพลิงจริงๆ ก็มีโอกาสสูงที่จะใช้จ่ายเงินมากเกินไป การตรวจสอบและจัดการเชื้อเพลิงอย่างระมัดระวังสามารถเปิดเผยรายละเอียดต่างๆ ได้มากมายเพื่อประหยัดเงิน และลดต้นทุน
ปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในอุตสาหกรรมขนส่งและโลจิสติกส์ ขณะที่ความต้องการงานด้านโลจิสติกส์ของโลกเริ่มมีความซับซ้อนยิ่งขึ้น แอพพลิเคชั่นที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลขนาดใหญ่ได้ก้าวเข้ามามีบทบาท เพื่อปรับปรุงการขนส่งระดับโลกและระดับประเทศ
AI จะช่วยการพิจารณาข้อมูลในอดีตและข้อมูลเรียลไทม์ ตามสภาพถนน สภาพอากาศ สภาพการจราจร การช่วงเวลาที่รถจะต้องรอหรือหยุดบางช่วง จากเหตุของการมีการซ่อมบำรุงทางและหรืออื่น ๆ
ปัญหาของธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ มักเกี่ยวข้องกับการทำงานที่ซับซ้อน และการเชื่อมโยงมากมาย และต้องการความร่วมมือจากหลายฝ่าย ได้แก่ พนักงาน ซัพพลายเออร์ และพาร์ทเนอร์ร่วมทำงานต่างๆ เทคโนโลยี AI สามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้และปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานได้
4 กระบวนการสำคัญ ของการจัดการการขนส่ง
การวางแผนและการตัดสินใจ (Planning and decision making ) TMS ระบบจะกำหนดรูปแบบการขนส่งที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดตามพารามิเตอร์ที่กำหนดไว้โดยผู้ใช้ ซึ่งอาจจะมีความสำคัญต่ำกว่าหรือสูงกว่าตามนโยบายของผู้ใช้ก็สามารถทำได้ อาทิเช่น ต้นทุนการขนส่ง การขนส่งที่ใช้เวลาน้อยที่สุด การลดการหยุดชะงักของการขนส่งให้น้อยลงเพื่อให้สร้างความเชื่อมั่นใจในคุณภาพการจัดส่ง กระบวนการทำงานและการจัดกลุ่มของหน้าที่ต่างๆ เดินไปอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นต้น
ระบบการจัดการการขนส่งที่ดี เพื่อให้การดำเนินการขนส่งเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ควรมีฟังก์ชั่นหลักของระบบ เพื่อครบองค์ประกอบการจัดการของธุรกิจขนส่งสินค้า
การนำเทคโนโลยีขั้นสูงเข้ามาในอุตสาหกรรมนี้ ทำให้ธุรกิจขนส่งต้องเพิ่มความสามารถ เพื่อการปรับตัวให้เข้ากับนวัตกรรมใหม่นี้ เพราะความจำเป็นต้องรักษาลูกค้าและความคล่องตัว แต่ถ้าหากเลือกที่จะไม่ใช้วิธีการทางเทคโนโลยีนี้ และยังใช้วิธีการแบบเก่าก็อาจจะขัดขวางและเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาธุรกิจได้ ความจริง ก็คือเป็นไปไม่ได้เลย สำหรับบริษัทขนส่งและโลจิสติกส์ที่จะแข่งขันในยุคนี้