ความนิยมสำหรับการใช้ระบบการจัดการการขนส่ง  TMS เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา  ระบบ TMS เข้ามามีบทบาทสำคัญของการจัดการดำเนินงานของธุรกิจ   ผู้เชี่ยวชาญด้านการขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ที่มีความรู้เกี่ยวกับระบบ TMS  ตระหนักดีว่าจะต้องเริ่มใช้งานระบบ TMS เพื่ออนาคตหากต้องการดำเนินธุรกิจด้านการขนส่งสินค้าต่อไป  โลกของการเข้าถึงข้อมูลแบบเรียลไทม์นั้นมีความสำคัญต่อการตัดสินใจอย่างยิ่งต่อระบบการจัดการการขนส่งสินค้า ระบบ TMS  สำหรับธุรกิจขนส่ง ณ ปัจจุบันช่วยประสานข้อมูลทั้งหมดของเครือข่ายการจัดส่งสินค้า  ระบบจะทำการรวบรวมข้อมูลที่สำคัญ เช่น อัตราการใช้น้ำมันและตัวเลือกการใช้เส้นทาง  ระบบ TMS นำเสนอข้อมูลในรูปแบบที่เข้าใจง่ายเพื่อให้ผู้จัดการด้านโลจิสติกส์ตัดสินใจเกี่ยวกับการขนส่งได้ดีที่สุด

ระบบการจัดการการขนส่งสินค้า  ปัจจุบัน TMS  ไม่ได้หยุดอยู่แค่ความสามารถรวบรวมและรายงานข้อมูล ขณะนี้ผู้ประกอบการด้านโลจิสติกส์ หรือ ผู้ให้บริการด้านขนส่งสินค้า  กำลังใช้ระบบ TMS ซึ่งเกี่ยวข้องกับกระบวนการสำคัญ 4 ขั้นตอนต่อไปนี้

1.การวางแผนและการตัดสินใจ    TMS  คือ ระบบการจัดการการขนส่งสินค้าให้ข้อมูลที่สำคัญแบบเรียลไทม์  เพื่อให้ผู้ประกอบการด้านการขนส่งสามารถวางแผนและตัดสินใจเกี่ยวกับการจัดการขนส่งสินค้า  ซึ่งรวมถึงการตัดสินใจเรื่องการเลือกใช้รถขนส่งสินค้า หรือ ผู้ให้บริการขนส่งสินค้า สามารถเลือกต้นทุนการขนส่งสินค้าที่ประหยัดกว่า  เลือกเส้นทางที่สั้นกว่า และเลือกจุดการแวะจอดระหว่างทางน้อยลง

2.การดำเนินงานตามแผนการขนส่งที่สะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น TMS คือ ระบบที่จะเข้ามาช่วยให้ดำเนินแผนการขนส่งได้รวดเร็วและง่ายขึ้น  ด้วยการทำงานที่สำคัญและสามารถทำได้โดยอัตโนมัติตลอดทั้งกระบวนการ

3.การมองเห็นภาพรวมของธุรกิจ  ระบบบริหารจัดการขนส่งสินค้า TMS ช่วยให้ผู้ประกอบการด้านจัดการโลจิสติกส์สามารถมองเห็นการขนส่งสินค้าระหว่างทางได้ง่ายขึ้น เพื่อให้ทีมงานทุกคนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงลูกค้า ทราบว่าการจัดส่งอยู่ที่ใดในเวลาใดก็ได้ ผู้จัดการด้านโลจิสติกส์สามารถมองเห็นได้ตั้งแต่จุด A ถึงจุด B ตลอดระยะทางการจัดส่งจนถึงการออกใบแจ้งหนี้และการวางบิลค่าใช้จ่าย

4. การวัดผลประสิทธิภาพการทำงานได้ชัดเจน ระบบบริหารจัดการขนส่งสินค้า TMS ส่วนใหญ่มีฟังก์ชันการรายงานตัวบ่งชี้ประสิทธิภาพหลักด้านโลจิสติกส์ (KPI) ซึ่งทำให้ง่ายต่อการวัดประสิทธิภาพการทำงานของบุคลากรและทีมงาน

สามารถคำนวน ROI (Return Of Investment)   และประสิทธิภาพกาทำงานต่างๆ ที่จำเป็นของธุรกิจการจัดส่งสินค้าได้อย่างชัดเจน

ข้อได้เปรียบที่ใหญ่ที่สุดและชัดเจนที่สุดที่ TMS นำเสนอ ก็คือ การประหยัดค่าใช้จ่าย  ส่งผลให้ ROI เพิ่มขึ้น พบว่าการใช้ระบบการจัดการการขนส่งช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้อย่างดี  ผู้ใช้ระบบให้ความสำคัญกับการประหยัดมาจากการเลือกโหมดการทำงานที่ทำให้ต้นทุนต่ำ  การกำหนดเส้นทางการขนส่งที่ดีขึ้น  TMS ทำให้สามารถเลือกกำหนดค่าใช้จ่ายจากผู้ให้บริการรถร่วม หรือ ผู้ให้บริการที่เกี่ยวกับการขนส่งสินค้าได้ดีขึ้น

แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการขนส่งสินค้าโดยการใช้โซลูชัน TMS เพื่อช่วยลดเวลาและต้นทุน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ให้บริการด้านการจัดส่งทุกคนต้องการที่จะบรรลุถึงวัตถุประสงค์นี้

อีกเหตุผลสำคัญในการใช้ TMS คือประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ด้วยการติดตามออเดอร์การจัดส่งและโซลูชันหลายรายการโดยอัตโนมัติ TMS จะจัดระเบียบข้อมูลทั้งหมดให้เป็นรายการที่แม่นยำและอ่านง่าย  ซึ่งช่วยให้ผู้ดำเนินการสามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ระบบอัตโนมัติยังช่วยขจัดข้อผิดพลาดของมนุษย์  ซึ่งมักส่งผลให้เกิดการตัดสินใจที่ไม่ดี บริษัท ที่ขนส่งสินค้ากำลังมองหา TMS มากขึ้นเพื่อเพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขันด้วยการตระหนักถึง ROI และประสิทธิภาพที่ดีมากขึ้น 

การใช้ระบบการจัดการการขนส่งจะเพิ่มระดับขีดความสามารถทางการแข่งขัน  เมื่อไม่นานมานี้องค์กรขนาดใหญ่หลายองค์กรที่ใช้ระบบ TMS ยังคงมีความเห็นว่าระบบ TMS เป็นระบบที่มีความจำเป็นและเป็นความจริง สาเหตุหลักที่ผู้ส่งสินค้าขนาดเล็กถึงระดับกลางส่วนใหญ่ไม่กระตือรือร้นที่จะใช้ระบบการจัดการการขนส่ง ก็คือ  ความซับซ้อนของระบบต้นทุนการดำเนินการและการบำรุงรักษาที่สูง แต่ผู้ส่งสินค้าระดับเล็กและระดับกลางเหล่านี้เข้าใจการไม่ใช้ TMS ทำให้พวกเขาเสียเปรียบอย่างมาก การประหยัดต้นทุนและประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นทำให้ บริษัท ขนาดใหญ่มีข้อได้เปรียบที่แตกต่างกัน