เมื่อฝ่ายจัดซื้อต้องลดค่าใช้จ่ายขนส่ง  ต้องเริ่มตรงไหน

ฝ่ายจัดซื้อ vs. ต้นทุนขนส่ง…สงครามที่ไม่มีวันจบ

โลกธุรกิจที่การแข่งขันสูงทุกวันนี้ ต้นทุนค่าขนส่ง กลายเป็นหนึ่งในค่าใช้จ่ายที่สำคัญที่สุดที่ฝ่ายจัดซื้อต้องจัดการ แต่บ่อยครั้งที่ฝ่ายจัดซื้อไม่รู้ว่าจะเริ่มลดต้นทุนจากตรงไหน เพราะค่าขนส่งดูเหมือนจะผันผวนและควบคุมได้ยาก บทความนี้จะเจาะลึก 5 ขั้นตอนที่ฝ่ายจัดซื้อสามารถนำไปใช้เพื่อลดต้นทุนค่าขนส่งได้อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ

ขั้นตอนที่ 1:

• วิเคราะห์ข้อมูลปัจจุบัน – รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง ก่อนจะเริ่มลดต้นทุน คุณต้องเข้าใจต้นทุนปัจจุบันก่อน
• รวบรวมข้อมูล: เริ่มต้นด้วยการรวบรวมข้อมูลการขนส่งย้อนหลังอย่างน้อย 6-12 เดือน เช่น ใบเสร็จค่าขนส่ง, รายละเอียดเส้นทาง, ชนิดของสินค้า, และน้ำหนักหรือปริมาตร
• แบ่งประเภทค่าใช้จ่าย: แยกค่าใช้จ่ายออกเป็นหมวดหมู่ต่างๆ เช่น ค่าขนส่งตามระยะทาง, ค่าธรรมเนียมเชื้อเพลิง (Fuel Surcharge), ค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม (Accessorial Charges) และค่าใช้จ่ายอื่นๆ
• หาจุดรั่วไหล: วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อหาว่าส่วนไหนของกระบวนการขนส่งที่สิ้นเปลืองมากที่สุด เช่น เส้นทางที่มีต้นทุนสูงเป็นพิเศษ, ผู้ให้บริการบางรายที่มีราคาแพงกว่าเจ้าอื่น, หรือประเภทสินค้าที่ต้องเสียค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมบ่อยครั้ง

ขั้นตอนที่ 2:

• เจรจาต่อรองกับผู้ให้บริการ – ไม่ลดต้นทุน ก็เพิ่มบริการ เมื่อคุณรู้จุดอ่อนแล้ว ก็ถึงเวลาพูดคุยกับผู้ให้บริการขนส่ง
• รวมปริมาณการจัดส่ง: ใช้ข้อมูลที่วิเคราะห์มาแล้วเพื่อรวมปริมาณการจัดส่งทั้งหมดของคุณ แล้วใช้ตัวเลขนี้ในการเจรจาต่อรองขอส่วนลดแบบเหมาสำหรับปริมาณที่มากขึ้น
• ต่อรองค่าธรรมเนียมแฝง: สอบถามผู้ให้บริการว่าสามารถลดหรือยกเว้นค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมบางอย่างได้หรือไม่ เช่น ค่าจอดรถ, ค่าขนถ่ายสินค้า หรือค่าธรรมเนียมที่เกิดจากการเปลี่ยนเส้นทาง

• ขอเงื่อนไขพิเศษ: นอกจากส่วนลดแล้ว ให้ลองต่อรองเรื่องบริการอื่นๆ เช่น การรับประกันเวลาจัดส่ง, การติดตามสถานะแบบเรียลไทม์ หรือการรับ-ส่งสินค้าที่ยืดหยุ่นมากขึ้น

 ขั้นตอนที่ 3:

• ปรับปรุงกระบวนการภายใน – ลดความผิดพลาด เท่ากับลดค่าใช้จ่าย

บางครั้งต้นทุนที่สูงไม่ได้มาจากผู้ให้บริการ แต่มาจากกระบวนการภายในของคุณเอง

• วางแผนการจัดส่งล่วงหน้า: การวางแผนล่วงหน้าช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงการใช้บริการขนส่งแบบเร่งด่วนซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูง
• จัดการพื้นที่ให้มีประสิทธิภาพ: จัดระเบียบสินค้าในคลังให้ง่ายต่อการขนถ่าย จะช่วยลดเวลาที่รถขนส่งต้องจอดรอ
• ใช้บรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสม: การเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่แข็งแรงและพอดีกับขนาดสินค้า จะช่วยลดความเสียหายและลดความเสี่ยงจากการต้องเสียค่าธรรมเนียมสำหรับสินค้าที่มีขนาดเกินกำหนด

ขั้นตอนที่ 4:

• ใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์ – เลิกเดา แล้วใช้ข้อมูลจริงในยุคดิจิทัล การใช้เทคโนโลยีเป็นทางเลือกที่คุ้มค่า
• ใช้ระบบ TMS (Transportation Management System): ระบบนี้ช่วยในการวางแผนเส้นทาง, เปรียบเทียบราคาจากหลายผู้ให้บริการ, และติดตามสถานะการจัดส่งแบบเรียลไทม์
• ใช้ AI ในการวิเคราะห์: AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลการขนส่งจำนวนมหาศาลเพื่อหาเส้นทางที่ประหยัดที่สุด และคาดการณ์ต้นทุนที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

ขั้นตอนที่ 5: สร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับผู้ให้บริการ

การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ให้บริการขนส่งจะส่งผลดีในระยะยาว

• เป็นพันธมิตร ไม่ใช่แค่ลูกค้า: เมื่อคุณให้ความร่วมมือและสื่อสารอย่างเปิดเผย ผู้ให้บริการจะมองคุณเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่พร้อมจะเสนอราคาและบริการที่ดีกว่าในอนาคต

• ให้ Feedback อย่างสม่ำเสมอ: การให้ Feedback ทั้งในแง่บวกและแง่ลบอย่างสร้างสรรค์จะช่วยให้ผู้ให้บริการเข้าใจความต้องการของคุณมากขึ้น และพัฒนาการบริการให้ดีขึ้น

 บทสรุป: การลดต้นทุนไม่ใช่แค่การตัดราคา แต่เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพ

การลดค่าใช้จ่ายขนส่งไม่ใช่เรื่องของการตัดราคาอย่างเดียว แต่คือการเข้าใจกระบวนการทั้งหมดและเพิ่มประสิทธิภาพในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การวิเคราะห์ข้อมูลไปจนถึงการนำเทคโนโลยีเข้ามาเป็นตัวช่วย หากฝ่ายจัดซื้อสามารถทำตาม 5 ขั้นตอนนี้ได้ คุณจะสามารถลดต้นทุนได้อย่างยั่งยืน และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันได้อย่างแท้จริง

 โทร : 095-526-5868 : 095-798-9568

 Line : @movemax หรือ

 คลิกลิ้งค์ >>> https://lin.ee/7OjgSi1

 Website : www.movemax.me

 TikTok : https://www.tiktok.com/@movemax89